"อย่ากลัวลูกสาว เล่นอะไรแผลงๆ ครับ"
ได้ดู TED Talk ตอนนี้ (ดูลิงค์ด้านล่าง) แล้วรู้สึกประทับใจมาก โดยเฉพาะในฐานะคนที่เป็นพ่อของลูกสาว (#น้องพรีส) .. เลยอยากจะเอามาแชร์ให้ได้ดูกันนะครับ ว่าการที่เราเลี้ยงลูกสาวเราตั้งแต่เด็ก ให้โตมาแบบ "หญิงๆ" มากเกินไป อาจจะเป็นผลเสียต่อทัศนคติและความมั่นใจของเขาในอนาคตครับ
แคโรลีน พอล Caroline Paul นักดับเพลิง ที่กลายมาเป็นนักเขียนระดับเบสต์เซลเลอร์ จากหนังสือ "The Gutsy Girl: Escapades for Your Life of Epic Adventure" ได้พูดไว้ในงาน TEDWomen 2016 เพื่อปฏิวัติแนวทางที่เราจะเลี้ยงลูกสาว ให้เล่นกิจกรรมที่เสี่ยงๆ แผลงๆ และจะได้โตขึ้นมาเป็นสตรีที่กล้าหาญ
ขอแปล แบบสรุปๆ ดังนี้
- เรากำลังเลี้ยงดูลูกสาว ให้กลายเป็นคนขี้อายและทำอะไรๆ ไม่ได้ ตั้งแต่ที่เราเริ่มเตือนพวกเธอไม่ให้ทำกิจกรรมเสี่ยงๆ
- ถ้ามีเสานักดับเพลิง (firefighter pole) ในสนามเด็กเล่น เด็กผู้หญิงมักจะถูกพ่อแม่เตือนไม่ให้ปีนเล่น แต่เด็กผู้ชายกลับถูกกระตุ้นให้ปีน
- เหมือนกันเราส่งสัญญาณให้เด็กๆ ว่า เด็กผู้หญิงนั้นเปราะบางและต้องการความช่วยเหลือ ส่วนเด็กผู้ชายนั้น กลับควรจะต้องสามารถทำสิ่งยากๆ ได้ด้วยตนเอง
- แต่ความจริงแล้ว ตอนเราเด็กๆ นั้น ทั้งเด็กหญิงและเด็กชายมีความสามารถทางกายภาพพอๆ กัน แถมเด็กผู้หญิงจะมีมากกว่าด้วยซ้ำ จนกว่าจะเข้าช่วงวัยรุ่น
- ประสบการณ์และความกลัวที่เรียนรู้ตั้งแต่เด็กนี้ จะฝังใจไปจนโต และกลายไปเป็นนิสัยหลายๆ อย่าง เช่น กลัวที่จะแสดงออก กลัวที่จะพูดออกมา และขาดความมั่นใจในการตัดสินใจ
- แล้วผู้หญิงจะกล้าหาญได้อย่างไร ? ข่าวดีคือ ความกล้าหาญนั้น เรียนรู้ได้ และต้องฝึกฝน
1. พ่อแม่ต้องยุให้ลูกสาวเล่นอะไรแผลงๆ อย่างสเก็ตบอร์ด ปีนต้นไม้ เล่นเสาดับเพลิงในสนามเด็กเล่น ฯลฯ
- ผลการวิจัยบอกว่า การฝึกเล่นอะไรเสี่ยงๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กทุกคน เพราะมันช่วยสอนให้เด็กรู้จักประเมินอันตราย ให้ความสนุก ฝึกความยืดหยุ่นร่างกาย สอนให้เกิดความมั่นใจ
2. พ่อแม่ต้องเลิกเตือนลูกสาวให้กลัวนั่นกลัวนี่ หรือห้ามทำโน่นทำนี่ เพราะมันจะเจ็บตัว จะอันตราย
- ระวังที่จะพูดเตือน เพราะยิ่งคุณพูดเช่นนั้น มันยิ่งเป็นการย้ำให้ลูกคิดว่า เธอไม่ควรจะมีความพยายาม เธอนั้นเก่งไม่พอ เธอควรจะกลัว ฯลฯ
3. ผู้ใหญ่เอง ก็ควรสอนตัวเองให้มีความกล้าหาญมากขึ้นด้วย เพราะแม่เองก็ไม่อาจจะสอนลูกสาวให้กล้าได้ ถ้าตัวเองยังไม่กล้าพอ
- ผู้หญิงควรเริ่มฝึกสร้างความกล้า ตั้งแต่ที่บ้าน ที่ทำงาน ลองเข้าไปทักทายคนที่คุณรู้สึกประทับใจ
ดังนั้น คราวหน้า เมื่อลูกสาวของเรากลัวจนไม่กล้าทำอะไร ตัวอย่างเช่น ขี่จักรยานลงเนินที่เธอคิดว่ามันชันมาก จงให้กำลังใจและให้ลองเรียนรู้ดูจากประสบการณ์ ว่าเนินมันชันจริงมั้ย จากที่ได้กล้าลองแล้ว ไม่ใช่จากความกลัว
การกล้าขี่จักรยานครั้งนั้น จะไม่ใช่แต่การเอาชนะเนินชัน แต่จะนำทางไปสู่อนาคตของเธอ ที่จะมีเครื่องมือติดไป ในการประเมินอันตรายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และเราพ่อแม่ไม่อาจตามไปป้องกันได้ตลอดชีวิต
(จาก https://www.facebook.com/29092950651/posts/10165715990015652/?app=fbl)
"Bravery is learned, and like anything learned, it just needs to be practiced."
ดูคลิปฉบับเต็มได้ที่ http://t.ted.com/FNGjUuh